การจัดอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรความมั่นคงปลอดภัยระบบคลาวด์ รุ่นที่ 1 ภายใต้กิจกรรมพัฒนาบุคลากรและวิทยากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตามมาตรฐานสากลให้กับประชาชน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) นำโดย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เข้าร่วมหารือกับหน่วยงานของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่
1) Ministry of Internal Affairs and Communications (MIC) นำโดย Mr. Mita Kazuhiro Director-General for CS & CSIO
2) Ministry of Economy, Trade and Industry (METI) นำโดย Mr. Okuie Toshikazu, Deputy Director-General
3) Ministry of Foreign Affairs of Japan (MOFA) นำโดย Mr. Miyake Fumito, Ambassador of Int. Cyber Policy และ
4) Japan International Cooperation Agency (JICA) นำโดย Mr. Tanaka Izumi Chief Digital Officer (CDO)

การหารือจัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทุกหน่วยงานต่างมีเป้าหมายร่วมกันในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงไซเบอร์และยกระดับศักยภาพบุคลากรในภูมิภาคอาเซียนให้พร้อมรับมือความท้าทายจากภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1) ส่งเสริมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงไซเบอร์ และสนับสนุนความร่วมมือด้านกฎหมายไซเบอร์ โดยเตรียมร่วมผลักดันประเด็นด้านธรรมาภิบาลไซเบอร์ในเวทีอาเซียน–ญี่ปุ่นต่อไป
2) ผลักดันศูนย์ AJCCBC ให้เป็นศูนย์กลางพัฒนาศักยภาพไซเบอร์ของอาเซียน ฝ่ายไทยและญี่ปุ่นมีความเห็นร่วมกันว่า ศูนย์ AJCCBC ควรได้รับการยกระดับบทบาทให้ครอบคลุมมากขึ้น ได้แก่
– การจัดฝึกอบรมด้านเทคนิค นโยบาย และการทูตไซเบอร์
– การพัฒนาความรู้ OT Security และ Cybersecurity สำหรับบุคลากรภาคอุตสาหกรรม
– การเตรียมบุคลากรรุ่นใหม่ผ่านรุ่นการแข่งขัน Cyber SEA Game
– ส่งเสริมหรือสนับสนุนความร่วมมือระหว่างรัฐบาล–เอกชน
3. มาตรฐานความมั่นคงปลอดภัย OT และ IoT ซึ่ง สกมช. อยู่ระหว่างพัฒนา แนวทางความมั่นคงปลอดภัย สำหรับระบบ OT (Operational Technology) เพื่อใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าเผยแพร่ภายในต้นปี 2569 และหวังใช้มาตรฐานของบริษัทญี่ปุ่นเป็นฐานในการออกแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานจริงในไทย ซึ่งฝ่ายไทยได้เพิ่มเติมว่าญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญด้าน OT Security โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมไฟฟ้า พร้อมเสนอความร่วมมือด้านการทดสอบ OT (OT Pentest) สำหรับโรงงานทั้งรายใหญ่และ SME รวมถึงการสนับสนุนการฝึกอบรมบุคลากรผ่านโครงการ Asia-Pacific Special Week ในส่วนของ IoT Security ญี่ปุ่นได้พัฒนาระบบติดฉลากความปลอดภัยร่วมกับสหราชอาณาจักร และพร้อมที่จะนำประสบการณ์ดังกล่าวมาแลกเปลี่ยนกับไทย เพื่อยกระดับความมั่นคงปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ IoT เช่น โทรทัศน์และเราเตอร์ ซึ่งไทยตั้งเป้าให้มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยนี้ภายในปี 2569
4) เสริมศักยภาพด้าน AI Security, Cloud Security, OSINT และ Quantum โดยจะเพิ่มเนื้อหาใหม่ ในหลักสูตรการฝึกอบรมของ AJCCBC เช่น Cloud Security และ OSINTการพัฒนาหลักสูตร AI Security ซึ่ง สกมช. ได้เผยแพร่แนวปฏิบัติการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมั่นคงปลอดภัย (AI Security Guidelines) ฉบับแรกของประเทศ และการหารือเกี่ยวกับ Quantum-Resistant Cryptography ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศอาเซียนกังวลร่วมกัน โดยญี่ปุ่นเตรียมแบ่งปัน Roadmap การเปลี่ยนผ่านระบบเข้ารหัสให้ศูนย์ AJCCBC โดย สกมช. เสนอให้ญี่ปุ่นช่วยสนับสนุนข้อมูลด้าน Data Center จากบริษัทญี่ปุ่นเพื่อรองรับภาระงานด้าน AI ในอนาคต รวมถึงความร่วมมือด้านกฎหมาย AI ที่ไทยอยู่ระหว่างการวางแนวทางระยะยาว
5) แนวทางการพัฒนาความยั่งยืนผ่าน Train-the-Trainer สนับสนุนการยกระดับศักยภาพบุคลากรด้าน AI พร้อมเสนอรูปแบบ Train-the-Trainer เพื่อให้บุคลากรไทยสามารถถ่ายทอดความรู้ต่อได้ด้วยตนเองในระยะยาว รวมถึงพร้อมพิจารณาจัดทำสื่อความรู้และการแปลเนื้อหาฝึกอบรมเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
การหารือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นในการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของภูมิภาค และเป็นการสานต่อนโยบายนโยบายของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น H.E. Ms. Sanae Takaichi ที่ได้แถลงในเวที The 28th ASEAN–Japan Summit ถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรด้านไซเบอร์และการเสริมความร่วมมือผ่านศูนย์ AJCCBC ผ่านการสนับสนุนทั้งด้านเทคโนโลยี มาตรฐานสากล และพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อให้ประเทศอาเซียนสามารถรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน