สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ร่วมกับธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด (HSBC Thailand) จัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะดิจิทัลและความตระหนักรู้ภัยไซเบอร์สำหรับนักเรียนผู้พิการทางการมองเห็น ณ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ โดย พันตรี ปวิช บูรพาชลทิศน์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิชาการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ร่วมกล่าวเปิดและให้โอวาท โดยมีคณะผู้แทน สกมช. ร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าว วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ด้านดิจิทัลและสร้างภูมิคุ้มกันในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตและประกอบอาชีพในอนาคตได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน สกมช. ได้นำหลักการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มานำเสนอผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติการที่สนุกสนานและเข้าใจง่าย คือ “การแสดง บทบาทสมมติ (Role Play)” ในสถานการณ์จำลอง 6 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ได้แก่ SMS ปริศนา, รหัสลับที่ไม่ลับ, นายตัวร้ายกับรักจอมปลอม, พัสดุดูดเงิน, ผู้กองหรือผู้ร้าย และตลาดออนไลน์ซื้อง่ายโกงคล่อง โดยมีทีมเจ้าหน้าที่ สกมช. เป็นพี่เลี้ยงดูแลและให้คำแนะนำประจำกลุ่มอย่างใกล้ชิด กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์และรู้วิธีรับมือกับภัยคุกคามด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจากทาง HSBC Thailand เช่น การเปรียบเทียบโลกดิจิทัลกับสิ่งใกล้ตัว เช่น โทรศัพท์มือถือคือบ้านของเรา รหัสผ่านคือลูกกุญแจที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับ เป็นต้น และการใช้ Deepfake และ AI ในการหลอกลวง ผ่านกิจกรรม “เสียงไหนมิตร เสียงไหนมิจ” ซึ่งเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้ฝึกแยกแยะเสียงที่น่าเชื่อถือจากเสียงปลอมแปลง

กิจกรรมในครั้งนี้มีนักเรียนและผู้เข้าร่วมกว่า 90 คน โดยทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Malware, Phishing หรือ Romance Scam ผ่านวิธีการที่เข้าถึงง่ายและสนุกสนานนอกจากนี้ยังได้ทำความรู้จักกับแนวคิดด้านความปลอดภัยไซเบอร์โดยเปรียบเทียบกับสิ่งใกล้ตัว ได้ฝึกคิดวิเคราะห์และหาแนวทางรับมือกับสถานการณ์จริงผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ช่วยสร้างทักษะและองค์ความรู้ที่จำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและมีความมั่นใจมากขึ้นในฐานะ “Cyber Hero” ที่ดูแลตัวเองและผู้อื่นได้อย่างยั่งยืน

